ช่วงนี้มีข่าวของฟ้าทะลายโจร ช่วยในการรักษาโควิด 19 (Covid-19) มากมายหลายแหล่ง เรามาทำความรู้จักและศึกษาข้อมูลในส่วนของฟ้าทะลายโจร จากกลุ่มงานวิจัยฯ(ตามลิงค์ด้านล่าง) และอ่านการชี้แจงจากโรงพยาบาลโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้ให้ข้อมูลเรื่องฟ้าทะลายโจรในการต้านโควิดตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 กันค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับฟ้าทะลายโจร
https://www.nci.go.th/en/research/researhdivision/research_informationfarthalai.html

ฟ้าทะลายโจร

ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees
ชื่อสามัญ Kariyat , The Creat
วงศ์ ACANTHACEAE
ชื่ออื่น หญ้ากันงู (สงขลา) น้ำลายพังพอน ฟ้าละลายโจร (กรุงเทพฯ) ฟ้าสาง (พนัสนิคม) เขยตายยายคลุม สามสิบดี (ร้อยเอ็ด) เมฆทะลาย (ยะลา) ฟ้าสะท้าน (พัทลุง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 30-70 ซม. ทุกส่วนมีรสขม กิ่งเป็นใบสี่เหลี่ยม ใบ เดี่ยว แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ช่อ ออกที่ปลายกิ่งและซอกใบ ดอกย่อย กลีบดอกสีขาว โคนกลีบติดกัน ปลายแยก 2 ปาก ปากบนมี 3 กลีบ มีเส้นสีม่วงแดงพาดอยู่ ปากล่างมี 2 กลีบ ผล เป็นฝัก เมื่อแก่เป็นสีน้ำตาล แตกได้ ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก

ส่วนที่ใช้ :

ทั้งต้น ใบสด ใบแห้ง ใบจะเก็บมาใช้เมื่อต้นมีอายุได้ 3-5 เดือน

สรรพคุณ

มี 4 ประการคือ

  1. แก้ไข้ทั่วๆไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
  2.  ระงับอาการอักเสบ  พวกไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ
    รักษาโรคผิวหนัง ฝี
  3. แก้ติดเชื้อ พวกทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ
  4. เป็นยาขม เจริญอาหาร และการที่ฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณ 4 ประการนี้ จึงชวนให้เห็นว่า
    ตัวยาต้นนี้ เป็นยาที่สามารถนำไปใช้กว้างขวางมาก จากเหตุผลที่ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์
    ระงับการติดเชื้อหรือระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

ใบฟ้าทะลายโจร มีสารเคมีประกอบอยู่หลายประเภท แต่ที่เป็นสาระสำคัญในการ
ออกฤทธิ์ คือ สารกลุ่ม Lactone คือ

  1. สารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide)
  2. สารนีโอแอนโดรกราโฟไลด์ (neo-andrographolide)
  3. 14-ดีอ๊อกซี่แอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-andrographolide)
    ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเก่าแก่ของประเทศจีน ที่ใช้ในการแก้ฝี แก้อักเสบ และรักษาโรคบิด การวิจัยด้านเภสัชวิทยาพบว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้ง เชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเป็นหนองได้ และมีการศึกษาวิจัยของโรงพยาบาลบำราศนราดูร ถึงฤทธิ์ในการรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิด แบคทีเรีย เปรียบเทียบกับ เตตราซัยคลิน ในผู้ป่วย 200 ราย อายุระหว่าง 16-55 ปี ได้มีการเปรียบเทียบระยะเวลาที่ถ่ายอุจจาระเหลว จำนวนอุจจาระเหลว น้ำเกลือ
    ที่ให้ทดแทนระหว่างฟ้าทะลายโจรกับเตตราซันคลิน พบว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ลดจำนวนอุจจาระร่วงและจำนวนน้ำเกลือที่ให้ทดแทนอย่างน่าพอใจ แม้ว่าจากการทดสอบทางสถิติ จะไม่มีความแตกต่างโดยในสำคัญก็ตาม ส่วนการลดเชื้ออหิวาตกโรคในอุจจาระ ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ผลดีเท่าเตตราซัยคลิน นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลชุมชนบางแห่งได้ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาอาการเจ็บคอได้ผลดีอีกด้วย มีฤทธิ์เช่นเดียวกับเพ็นนิซิลินเมื่อเทียบกับยาแผนปัจจุบัน เท่ากับเป็นการช่วยให้มีผู้สนใจทดลองใช้ยานี้รักษาโรคต่าง ๆ มากขึ้น

วิธีและปริมาณที่ใช้

       1.      ถ้าใช้แก้ไข้เป็นหวัด ปวดหัวตัวร้อน
ใช้ใบและกิ่ง 1 กำมือ (แห้งหนัก 3 กรัม สดหนัก 25 กรัม) ต้มน้ำดื่มก่อนอาหารวันละ 2
ครั้ง เช้า-เย็น หรือเวลามีอาการ
       2.      ถ้าใช้แก้ท้องเสีย ท้องเดิน เป็นบิดมีไข้
ใช้ทั้งต้นหรือส่วนทั้ง 5 ของฟ้าทะลายโจร ผึ่งลมให้แห้ง หั่นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1 กำมือ
(หนักประมาณ 3-9 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่มตลอดวัน

ตำรับยาและวิธีใช้

       1.ยาชงมีวิธีทำดังนี้
– เอาใบสดหรือแห้งก็ได้ ประมาณ 5-7 ใบ แต่ใบสดจะดีกว่า
– เติมน้ำเดือดลงจนเกือบเต็มแก้ว
– ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือพอยาอุ่น แล้วรินเอามาดื่ม ขนาดรับประทานครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร, ก่อนนอน
       2.ยาเม็ด (ลูกกลอน) มีวิธีทำดังนี้
– เด็ดใบสดมาล้างให้สะอาดผึ่งในที่ร่ม ห้ามตากแดด ควรผึ่งในที่มีลมโกรก ใบจะได้แห้งเร็ว
– บดเป็นผงให้ละเอียด
– ปั้นกับน้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม เป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลือง (หนัก 250 มิลลิกรัม)แล้วผึ่งลมให้แห้ง เพราะถ้าปั้นรับประทานขณะที่ยังเปียก
อยู่จะขมมาก ขนาดรับประทานครั้งละ  4-10 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร, ก่อนนอน
       3.แค๊ปซูล มีวิธีทำคือ
แทนที่ผงยาที่ได้จะปั้นเป็นยาเม็ด กลับเอามาใส่ในแค๊ปซูล เพื่อช่วยกลบรสขมของยา แค๊ปซูล ที่ใช้ ขนาดเบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลิกรัม) ขนาดรับประทานครั้งละ 3-5 แค๊ปซูล วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร ก่อนนอน
       4.ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้า
เอาผงแห้งใส่ขวด แช่สุราที่แรง ๆ เช่น สุราโรง  40 ดีกรี ถ้ามี alcohol ที่รับประทานได้ (Ethyl alcohol) จะดีกว่าเหล้า แช่พอให้ท่วมยาขึ้นมาเล็กน้อย ปิดฝาให้แน่น เขย่าขวดวันละ  1 ครั้ง พอครบ 7 วัน จึงกรองเอาแต่น้ำ เก็บไว้ในขวดให้สะอาดปิดสนิท รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ (รสขมมาก) วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร
       5.ยาผงใช้สูดดม
คือเอายาผงที่บดละเอียด มาใส่ขวดหรือกล่องยา ปิดฝาเขย่าแล้วเปิดฝาออก ผงยาจะเป็นควันลอยออกมา สูดดมควันนั้นเข้าไป ผงยาจะติดที่คอทำให้ยาไปออกฤทธิ์ที่คอโดยตรง ช่วยลดเสมหะ และแก้เจ็บคอได้ดี วิธีที่ดีกว่านี้คือวิธีเป่าคอ กวาดคอ หรือรับประทานยาชง ตรงที่คอจะรู้สึกขมน้อยมาก ไม่ทำให้ขยาดเวลาใช้ ใช้สะดวกและง่ายมาก ประโยชน์ที่น่าจะได้รับเพิ่มก็คือ ผงยาที่เข้าไปทางจมูก อาจจะช่วยลดน้ำมูก และช่วยฆ่าเชื้อที่จมูกด้วย
           ขนาดที่ใช้   สูดดมบ่อย ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ให้หยุดยาไปสักพัก จนความรู้สึกนั้นหายไป จึงค่อยสูดใหม

ข้อควรรู้เกี่ยวกับตำรับยา

สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) สารในต้นฟ้าทะลายโจร ละลายในแอลกอฮอร์ได้ดีมาก ละลายในน้ำได้น้อย ดังนั้นยาทิงเจอร์ หรือยาดองเหล้าฟ้าทะลายโจร จึงมีฤทธิ์แรงที่สุด ยาชงมีฤทธิ์แรงรองลงมา ยาเม็ดมีฤทธิ์อ่อนที่สุด

ข้อควรระวัง

บางคนรับประทาน ยาฟ้าทะลายโจร จะเกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย ปวดเอว เวียนหัว แสดงว่าแพ้ยา ให้หยุดยา และเปลี่ยนไปใช้ยาอื่น หรือลดขนาดรับประทานลง

www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_07_8.htm


ข่าวการชี้แจงจาก ร.พ.อภัยภูเบศร  https://www.hfocus.org/content/2021/04/21423

อภัยภูเบศรย้ำ! ข้อเท็จจริงฟ้าทะลายโจรกับโควิด19

Sat, 2021-04-17 18:09 — hfocus team

อภัยภูเบศรเคลียร์ชัด ฟ้าทะลายโจรกับโควิด-19 หลังโลกโซเชียลแชร์ข้อมูลสร้างความสับสนในสรรพคุณ ยกผลวิจัยมหิดล พบสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อได้ ล่าสุดลงตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศแล้ว

เมื่อวันที่ 17 เมษายน โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชี้แจงกรณีมีการแชร์ข้อมูลฟ้าทะลายโจรในโลกโซเชียล ที่มีทั้งจริงและเท็จ สร้างความสับสนในเรื่องของสรรพคุณ โดยภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร กล่าวว่า ในฐานะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องฟ้าทะลายโจรในการต้านโควิดเป็นคนแรกตั้งเดือนมกราคม 2563 จึงขอไขข้อข้องใจในประเด็นต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้

ประเด็นแรก ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ได้จริงหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่า โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ไม่มียา หรือ วัคซีนใดที่จะตอบได้อย่างเต็มปาก ว่ารักษาหรือป้องกันได้จริง แต่จากการวิจัยเอกสารที่มีการทำการศึกษาวิจัยมากมายหลายฉบับทำให้เรามั่นใจว่าฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์ในการนำมาใช้กับผู้ป่วยโควิดและได้ส่งมอบเอกสารให้กับทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในการระบาดระลอกแรก จนนำไปสู่การใช้ฟ้าทะลายโจรไปรักษาผู้ป่วยโควิดรายที่มีอาการน้อยและไม่มีอาการ ในโรงพยาบาลสังกัด กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพบว่าผู้ที่มีอาการน้อยหลังจากได้รับยาฟ้าทะลายโจรมีอาการดีขึ้นทุกราย โดยไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนในรายที่ไม่มีอาการ ก็ไม่พบว่ามีอาการภายหลัง และปลอดภัยดี

“อภัยภูเบศรจึงอยากให้มีการวิจัยฟ้าทะลาย โจร เพื่อให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ จึงได้เตรียมสารสกัดฟ้าทะลายโจร ส่งให้คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อศึกษากลไกในการต้านโควิด-19 ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร มีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอด โดยผ่านกลไกที่สำคัญ คือ การยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิดในทุกระยะ จึงมีโอกาสที่จะพัฒนาการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเดี่ยว หรือใช้ควบรวมกับสูตรยามาตรฐานในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด ปัจจุบันผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร “Natural Products” เป็นที่เรียบร้อย” ดร.สุภาภรณ์ กล่าว

ในประเด็นที่สอง ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้ แต่มีการศึกษาพบว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ ๆ (แอนโดรกราโฟไลด์ 11.2 มิลลิกรัม/วัน) กิน 5 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยป้องกันหวัดได้ ซึ่งนักวิจัยได้กล่าวถึงผลในการป้องกันหวัดว่า น่าจะเกิดจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งก็มีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่มากพอควรว่าฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในส่วนตัวเองที่เก็บข้อมูลจากหมอพื้นบ้าน ก็เห็นช่วงฤดูหนาวชาวบ้านก็กินฟ้ากัน 2-3 ใบทุกวัน สำหรับผู้ประสงค์จะใช้ฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ต้องกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ ๆ และต้องไม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ตับและไตต้องดี และไม่ได้กินยาละลายลิ่มเลือดที่ชื่อวาร์ฟาริน

ประเด็นที่สาม ใช้ฟ้าทะลายโจร ไม่ต้องฉีดวัคซีนใช่หรือไม่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันที่จำเพาะสำหรับเชื้อโควิด ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่อย่างน้อยก็ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง ลดภาระของระบบบริการสุขภาพได้ การใช้ฟ้าทะลายโจรมีข้อมูลสนับสนุนว่ามีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันทั้งภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดและภูมิคุ้มกันจำเพาะแต่ยังไม่มีการศึกษากับเชื้อโควิดโดยตรง ดังนั้นประชาชนควรฉีดวัคซีน ซีงจะเห็นได้จากประเทศอังกฤษที่มีการฉีดวัคซีนกันอย่างกว้างขวางทำให้อัตตราการติดเชื้อลดลง

ประเด็นที่สี่ ฟ้าทะลายโจรที่เป็นสารสกัดมีฤทธิ์ดีและปลอดภัยกว่าผงบดหยาบใช่หรือไม่ ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ไม่จริงเสมอไป ขึ้นกับมาตรฐานการผลิตและโรคที่นำไปใช้ ใน Thai Herbal Pharmacopoeia กำหนดไว้ว่า ต้องมีปริมาณแลคโตนรวมไม่น้อยกว่า 6% และแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่า 1% ซึ่งในมาตรฐานดังกล่าวใช้สำหรับบรรเทาอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยขนาดที่แนะนำ 1500-3000 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน หรือใช้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ก็ได้ ประมาณ 60-120 มิลลิกรัม/วันในการบรรเทาอาการเจ็บคอและหวัด

ในส่วนของโควิด-19 ที่มีใช้ในระบบบริการสุขภาพตอนนี้ ก็มีทั้งผงหยาบที่ทราบปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ และสารสกัด ดังนั้นประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ผงบดหยาบหรือสารสกัด แต่อยู่ที่ว่าผู้ป่วยได้รับปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณสูงเพียงพอต่อการรักษาหรือไม่ ในส่วนของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรก็ใช้ผงบดหยาบที่มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่า 3% ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนก็อาการดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียง การสกัดนั้นโดยปกติเป็นการสกัดที่มุ่งเน้นจะให้ปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์สูงๆ แต่โดยทั่วไปในภาคอุตสาหกรรมเราก็สกัด แอนโดรกราโฟไลด์ได้อยู่ที่ 6% ในขณะที่เราให้เกษตรกรปลูกให้จนเริ่มออกดอก แล้วนำส่วนเหนือดินมาใช้ก็ได้ถึง 3-4% ในช่วงระบาดระลอกแรก โรงพยาบาลก็แจกเมล็ดพันธุ์พร้อมส่งวิธีปลูกให้ผู้สนใจ ตอนนี้หลายคนก็นำมาใช้บรรเทาหวัด ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่ควรปลูกไว้ที่บ้าน ใช้ดูแลสุขภาพยามเจ็บป่วยได้

ส่วนที่มีการส่งไลน์ต่อ ๆ กันว่า สาร 14-deoxy-11 12-didehydroandrographolide (AP 3) ที่พบในผงฟ้าทะลายโจรอาจทำให้ความดันโลหิตลดลง แขนขาอ่อนแรงได้นั้น ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นรายงานดังกล่าว และว่าฟ้าทลายโจรในรูปแบบผงอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีการใช้อย่างกว้างขวางในโรงพยาบาล มีความปลอดภัยดี

อย่างไรก็ตาม ดร.สุภาภรณ์ ย้ำว่า การสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นเกราะสำคัญในการป้องกันโรค ตั้งแต่มาตรการ DMHTT การรับประทานอาหาร เน้นเครื่องเทศ ผัก ผลไม้ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกาย และสัมผัสแดดในช่วงเช้าหรือเย็น ล้วนแล้วแต่ต้องดำเนินการเป็นองค์รวม อย่าใช้เครื่องมือเดียว เพราะโควิด-19 เป็นโรคใหม่ที่เรายังไม่เข้าใจทั้งหมด ยังคงต้องผนึกกำลังของเครื่องมือในการดูแลสุขภาพทุกเครื่องมือเข้าด้วยกัน

ในอนาคตอภัยภูเบศรปรารถนาให้ ประชาชน ผู้ประกอบการ รายย่อย ได้ปลูก เก็บเกี่ยว บด บริโภค แจกจ่าย ขาย ฟ้าทลายโจร เพื่อการดูแลรักษา ตนเองเป็นเบื้องต้น โดยมีการสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วน ด้วยส่งเสริมสนับสนุน ด้วยองค์ความรู้บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ฟ้าทะลายโจรหรือสมุนไพรอื่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเติมได้ที่ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ในวันและเวลาราชการที่เบอร์ 037-211-289

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *