The Secret กับแพทย์แผนไทย

The Secret กับ แพทย์แผนไทย เกี่ยวอะไรกัน

วันนี้หยิบคำนำที่เป็นเล่มเล็กๆแนบมากับหนังสือ The Secret มานั่งอ่านดูคำนิยมจากนักเขียนและจากผู้อ่านที่เป็นบุคคลที่เรารู้จักและชื่นชมอยู่ โดยเฉพาะคำนิยมของ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ที่ว่า

“หัวใจของหนังสือเล่มนี้อยู่ตรง กฏแห่งการดึงดูด (Law of Attraction) หรือ “เดอะซีเครต” ซึ่งผู้แปลเขียนไว้ว่า ..

“ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตคุณนั้น คุณเองเป็นผู้ดึงดูดเข้ามา ที่คุณดึงดูดสิ่งใดๆเข้ามาก็เพราะคุณมีมโนภาพเกี่ยวกับสิ่งนั้นอยู่ในใจ สิ่งที่คุณคิดสำคัญที่สุด อะไรก็ตามที่คุณกำลังคิด คุณก็กำลังจะดึงดูดสิ่งเหล่านั้นให้เข้ามาหาตัวคุณเองในที่สุด”

ผู้เขียนบอกว่า หนังสือเล่มนี้ได้แรงกระตุ้นจากหนังสือเก่าอายุร้อยปี ที่ลูกสาวมอบให้ในยามที่มีปัญหาที่สุด ทำให้ได้เห็น “เดอะซีเครต” และสามารถชนะอุปสรรคได้เพราะการใช้กฏข้อนี้

กฎเก่าแก่ข้อนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ไม่มีอะไรใหม่ในโลกนี้ มีแต่ของเก่าที่ถูกลืมเท่านั้น” ใครที่ดูถูกของเก่าโบราณอาจต้องทบทวนความคิดใหม่ก็เป็นได้ และค้นหา”ความลับ” ที่แอบซ่อนอยู่ในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ..

จากตรงนี้.. ซึ่งมาตรงกันกับความคิดของเราหลังจากเข้าไปเรียนแพทย์แผนไทยได้ระยะหนึ่ง ว่า บรรพบุรุษของเราทำไมคิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร นี่เป็นคนโบราณคิดมาจริงๆเหรอ ..อเมซิ่งมากๆ เป็นศาสตร์ที่ล้ำลึกและน่าศึกษาจริงๆ ทุกๆอย่างมันมีที่มา และการค้นหาสิ่งที่มาแก้ไขก็อยู่ในธรรมชาติ ..เค้ารู้ได้ยังไง ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้รู้แบบนี้..

แต่เชื่อมั้ย ถ้าจะบอกว่าความคิดเรามันเปลี่ยนไปจากตอนเข้าไปเรียนใหม่ๆมากเป็นคนละขั้วเลย.. ก่อนเข้าไปเรียน เราคิดว่าอยากหาหลักสูตรการเรียนสมุนไพรแบบที่ระบุชี้ชัดได้ว่า ใช้อะไร ชื่ออะไรทางวิทยาศาสตร์จะได้รู้แน่ๆว่ามันคือตัวนี้ ใช้ส่วนไหน-ในสัดส่วนการออกฤทธิ์เท่าไร รักษาอะไร และมีอาการข้างเคียงอะไร ..อะไรๆประมาณนี้

แต่พอไปเรียนครั้งแรกๆ เรียนการใช้ยาตามตำรับจะเป็นหน่วยการชั่งตวงวัดแบบโบราณ คือเป็นน้ำหนักบาท สลึง ตำลึง ชั่ง ฯลฯ ซึ่งก็มีอัตราส่วนเทียบให้เป็นแบบสากลอยู่แล้ว เพียงแต่เราคิดว่าสิ่งที่ชั่งคือพืช-สมุนไพร แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าในน้ำหนักที่ชั่งนั้นจะมีส่วนที่ออกฤทธิ์อยู่เท่าไร และแต่ละแหล่งที่เราได้พืช-สมุนไพรมานี่จะมีส่วนที่ออกฤทธิ์เท่ากันหรือเปล่า ..มันมีความสงสัยที่เป็นคำถามในใจอยู่มากมาย..

และพอเริ่มเรียนรู้หลักการต่างๆ จนมาถึงการเรียนในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและความสัมพันธ์ในทางพุทธศาสนา ก็เริ่มเข้าใจ อืม..มันเป็นไปได้ยังไง.. ที่คนสมัยก่อนเค้าถึงรู้และคิดได้แบบนี้..

เราเข้าใจตัวเองว่าเราต้องการอะไร จุดหมายในการเลือกเรียนนั้นชัดเจน แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้นั้นต่างออกไป แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเราเข้าใจในสิ่งที่เรายืนอยู่ ถ้าจะหาคำตอบแบบเดิมที่ตั้งเอาไว้ก่อนเข้ามาเรียนนี้ก็ได้ แต่เป็นหลักสูตรในอีกรูปแบบหนึ่ง

แต่การเรียนแพทย์แผนไทย ก็จะเป็นการเรียนรู้ถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเรา ซึ่งในตอนนั้นไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ ที่จะสามารถตอบคำถามที่เป็นปัจจุบันอย่างที่เราตั้งไว้ได้ทั้งหมด แต่มันมีคำตอบ.. ที่เป็นธรรมชาติ และมันก็อยู่ในธรรมชาติรอบๆตัวเรา ซึ่งเราต้องค้นหาจาก“ความลับ” ที่แอบซ่อนอยู่ในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของพวกเรานี่เอง

ขอขอบคุณ

• ผู้เขียนหนังสือ เดอะซีเครต(The Secret) รวมถึง คุณจิระนันท์ พิตรปรีชาผู้แปล และขอบคุณผู้เขียนคำนำ-คำนิยม ในหนังสือทุกท่าน
• ขอขอบคุณบรรพบุรุษของเรา รวมทั้งท่านอาจารย์ทุกๆท่าน
• ขอขอบคุณบุคคลที่ไม่ใช่อาจารย์แต่ที่ได้สอนเรามาในเรื่องอื่นๆด้วยค่ะ ..ซึ่งบางทีคนๆนั้นก็อาจเป็น คุณ ..ขอบคุณค่ะ