ขอคุยสักนิดค่ะ เกี่ยวกับเรื่องเรียนพิเศษของเด็กๆที่ฝักใฝ่ในการเรียนกันมากในสมัยนี้

สืบเนื่องมาจากว่าหลานๆ ได้ลงทะเบียนเรียนพิเศษที่ทำให้ต้องเข้าเมืองกรุงทุกสัปดาห์ ทั้งที่อยู่ต่างจังหวัด
ทำให้การเข้ากรุงแต่ละครั้ง จำเป็นต้องจัดเวลาให้มีประสิทธิภาพต่อการเข้าเรียนแต่ละคอร์สที่เลือกลงทะเบียนไว้

ดังนั้นบางคอร์สที่ลงไว้แต่ไม่ match กับเวลาที่เหมาะสม ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ลงตัวกับความสะดวก
อาจมีบางคอร์สที่จ่ายเงินไปแล้ว แต่มาเลือกลงทะเบียนคอร์สเดิมในเวลาใหม่อีก ก็ต้องจ่ายเงินของคอร์สใหม่ด้วย
และเพื่อไม่ให้เสียเงินไปเปล่าๆกับคอร์สที่ลงแล้วแต่จะไม่เรียน ผู้ปกครองก็จะประกาศขายคอร์สนั้นออกไป

สิ่งที่อยากพูดถึงเรื่องนี้จริงๆก็คือ..
เรื่องการซื้อขายคอร์สระหว่างผู้ที่ต้องการลงทะเบียนเรียนด้วยกัน
เข้าใจว่าการที่ผู้ซื้อต้องการขอซื้อต่อนั้น เป็นเพราะสถานที่เรียนซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนคอร์สนั้นเต็มแล้ว
สำหรับผู้ขายก็คงไม่ใช่ว่าไปจองซื้อเพื่อมาขายต่อทำกำไร(พวกขายใบจอง)เพราะผู้ขายส่วนใหญ่ก็ขายราคาปกติ
คือถ้าไม่ได้มองเชิงธุรกิจแล้ว การซื้อขายลักษณะนี้ก็น่าจะเป็นแบบ win-win ด้วยกันทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ผู้ซื้อก็ได้ลงทะเบียนคอร์สที่อยากให้เด็กๆได้เรียน (ทั้งที่คอร์สเต็มแล้ว) ผู้ขายก็ไม่ต้องเสียเงินไปเปล่าๆ
ซึ่งอาจมีการลดราคาหรืออาจเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยซ้ำ ถ้าคุยกันเป็นที่พอใจ

แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ได้เคยลงประกาศขายต่อคอร์ส BIO-BEAM ของหมอพิชญ์ค่ะ (เหตุผลเรื่องเวลา)
และได้ซื้อคอร์สนี้เวลาอื่นแทนไว้แล้ว ก็มีผู้ต้องการขอซื้อต่อหลายท่านนะคะ แต่บางท่านก็ต่อราคาลดลงจนหมดค่า
ทำให้ผู้ขายไม่ต้องการเจรจาซื้อขายอีก จึงไปติดต่อขอคืนโค้ดกับสถานที่เรียนด้วยตัวเอง ..ผลก็คือได้คืนเต็มค่ะ

เลยอยากบอกไว้ตรงนี้ เผื่อว่าบางท่านที่ซื้อคอร์สไว้และจะไม่ได้ใช้ น่าจะลองติดต่อกับสถานที่เรียนดูก่อนค่ะ
และสำหรับท่านที่พลาดการจองที่เรียน ถ้ามีโอกาสได้เจรจาซื้อคอร์สต่อได้ ก็ไม่น่าจะต่อราคาให้ลดลงมากเกินไป
นึกถึงใจเขาใจเราเข้าไว้ค่ะ และที่สำคัญ เด็กๆลูกหลานของเราจะได้ไม่เสียโอกาสดีๆไป(เพราะเราเป็นเหตุ)นะคะ 😉

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *