ดูรายการ เรื่องของเรื่อง ทางโทรทัศน์ ช่อง 5 เกี่ยวกับสามพี่น้อง”ศรีณรงค์” และดนตรีคลาสสิค เมื่อสักครู่นี้แล้วอดไม่ได้เลยที่จะต้องมาหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วก็ไม่ผิดหวังที่ค้นเจอค่ะ เลยหยิบมาฝากกันตรงนี้ และคิดว่าจะหาซื้ออัลบั้มนี้มาฟังที่บ้านด้วย

ขอขอบคุณ http://mcza.com สำหรับที่มาของข้อมูลนะคะ
และขอขอบคุณ Gmember สำหรับมิวสิควิดิโอเพลง Miracle ค่ะ

“Miracle” ดนตรีคลาสสิคที่ไม่ต้องปีนบันไดฟัง
                      เมื่อพูดถึงดนตรีคลาสสิคหลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นดนตรีชั้นสูง ยากแก่การที่จะฟังให้เข้าใจ อีกทั้งกระแสนิยมในปัจจุบันที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการฟังดนตรีเพียงไม่กี่ประเภท อาทิ ป๊อบ ร็อค แร๊พ ฮิพฮอพ แจ๊ส เป็นต้น ดนตรีคลาสสิคจึงไม่เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มคนฟังดนตรีทั่วไป และเป็นที่มาของวง “Vie Trio” (วี ทรีโอ) วงดนตรีที่ต้องการจะลดช่องว่างระหว่างดนตรีคลาสสิคและดนตรีสมัยนิยมเข้าด้วยกัน                      พูดแค่ชื่อวง “Vie Trio” (วี ทรีโอ) หลายคนอาจจะกำลังคิดว่าพวกเขาเป็นใคร วันนี้ Gmember ก็เลยนำเรื่องราวของพวกเขามาบอกเล่า พร้อมทั้งมีภาพเบื้องหลังการทำงานมาให้ดูกัน

วงดนตรีคลาสสิคร่วมสมัย “Vie Trio”  หรือวงดนตรี “สามชีวิต” (Vie = ชีวิต Trio = สาม) เกิดขึ้นจากการรวมตัวของสามพี่น้องนักเรียนทุนดนตรีในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้แก่ “เป้ – ทวีเวท ศรีณรงค์” (นักดนตรีไวโอลิน), “ป่าน – อุทัยศรี ศรีณรงค์” (นักดนตรีเชลโล) และ “ปุย – พินทุสร ศรีณรงค์” (นักดนตรีไวโอลิน) ที่ต้องการจะถ่ายทอดดนตรีคลาสสิคให้กลายเป็นดนตรีที่คนไทยคุ้นหูมากยิ่งขึ้น  โดยใช้ชื่อในอัลบั้มแรกนี้ว่า “Miracle” ซึ่งเป็นชื่อเพลงที่รวมอยู่ในอัลบั้มและเป็นผลงานที่ได้รับอิทธิพลมาจาก “String Quartet” ผลงานลำดับที่ 131 ของนักประพันธ์เพลงอย่าง “บีโธเฟ่น” (Beethoven) คีตกวีชื่อเสียงก้องโลกที่พวกเขาชื่นชอบอีกด้วย แต่งานนี้พวกเขาจะทำให้ดนตรีคลาสสิคติดหูคนฟังได้อย่างไรนั้น ต้องยกให้ทั้ง 3 พี่น้องนักดนตรีเป็นคนเล่า

“การที่เราทั้งสามคนเติบโตมากับสังคมดนตรีคลาสสิค พร้อมๆ กับเพลงกระแสนิยม มันทำให้เรามองเห็นช่องว่างของดนตรีดังกล่าวกับดนตรีคลาสสิค และต้องการจะลบช่องโหว่นั้นทิ้งไป ดังนั้นเมื่อเรามีโอกาสทำอัลบั้มครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะทำให้คนเปลี่ยนทัศนะคติกับดนตรีคลาสสิค โดยทำให้พวกเขามองเห็นว่า ดนตรีคลาสสิคไม่ใช่ดนตรีสำหรับสังคมชั้นสูง ที่จะต้องใส่สูทผูกไทเข้าไปนั่งฟังตัวแข็งอยู่ในโรงละคร แต่มันเป็นดนตรีสำหรับทุกๆ คน” ทั้ง 3 กล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้อยากถ่ายทอดดนตรีคลาสสิคให้เป็นที่รู้จัก

“เป้-ป่าน-ปุย” กล่าวต่อถึงแนวทางในการประยุกต์ดนตรีคลาสสิคให้เข้ากับคนฟังในปัจจุบันว่า ” เราต้องการให้ดนตรีคลาสสิคกลายเป็นดนตรีที่คนไทยคุ้นเคย และรู้สึกสบายๆ กับมันมากกว่า โดยการใช้เครื่องดนตรีคลาสสิคบรรเลงให้มีความร่วมสมัยและมีลักษณะตามแนวดนตรีในประเภทที่ได้รับความนิยมมากขึ้น อย่างเช่น ป๊อบ ร็อคและแร็พ เป็นต้น ทั้งนี้เราไม่ได้เอาดนตรีคลาสสิคมาทำให้เป็นดนตรีร่วมสมัยเท่านั้น แต่เราได้นำเอาท่วงทำนองของดนตรีคลาสสิคมาเรียบเรียงในลักษณะที่นิยมในปัจจุบันด้วย ซึ่งเป็นการ educate คนฟังทางอ้อม และถือเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างดนตรีสองประเภทที่เรากล่าวถึง แต่ถึงยังไงเพลงลักษณะบรรเลงก็ยังถือเป็นเพลงแนวใหม่ของวงการเพลงกระแสหลักบ้านเรา และเพื่อให้ผู้ฟังคุ้นเคยกับมันเร็วขึ้น เราจึงอยากให้มองเพลงในอัลบั้มนี้ว่าเป็น Song Without Word ซึ่งก็คือ “เพลงร้องที่ไม่มีเนื้อ” เราอยากให้ทุกคนฟังท่วงทำนอง แล้วใช้จินตนาการ และความรู้สึก เพื่อสัมผัสกับนิยามของแต่ละเพลงซึ่งเกิดจากความรู้สึกของผู้ฟังเอง”

เล่ากันซะขนาดนี้แล้ว หากไม่พูดถึงบทเพลงในอัลบั้มด้วยก็ดูจะทำให้ขาดอรรถรสไปอย่างน่าเสียดาย อัลบั้ม “Miracle” ประกอบด้วยเพลงที่ผสมผสานดนตรีหลากแนวเข้าด้วยกัน 12 เพลง ซึ่ง 2 เพลงในจำนวนนี้ได้รับเกียรติจากนักร้องมาดร็อคอย่าง “อาร์ เดอะสตาร์” มาร่วมร้องในเพลง “Swan Lake เสียงเพลงแทนใจ” และ ได้หนุ่ม “รุจ เดอะสตาร์” มาถ่ายทอดอารมณ์เหงาในเพลง “ผู้ชายกับสายฝน”

ในส่วนของเพลง “Swan Lake เสียงเพลงแทนใจ” เพลงที่หลายคนคงคุ้นหูจากเพลงประกอบบัลเล่ต์ “Swan Lake” ของ Tchaikovsky แต่ในอัลบั้มนี้คุณจะได้ฟังสิ่งที่แปลกออกไปจากเวอร์ชั่นเดิม ซึ่งก็คือ การผสมผสานความอ่อนหวานเข้ากับความแข็งแรงของดนตรีร็อคปนแร็พนิดๆ ซึ่งฟังแล้วไม่มีขัดกันเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้เกิดความน่าสนใจและสนุกสนานเพิ่มขึ้น ส่วนเพลง “ผู้ชายกับสายฝน” เป็นเพลงป๊อบฟังสบายๆ ที่มีการโชว์เทคนิคของเครื่องสายอย่างเชลโลเป็นตัวถ่ายทอดอารมณ์เหงาได้อย่างกินใจ

พูดถึงเพลงคุ้นหูแล้ว จะขาดเพลงนี้ไปไม่ได้ “Canon” เพลงคลาสสิคเพลงแรกๆ ที่ฮิตมาแล้วถึง 328 ปี ในอัลบั้มนี้ทั้ง 3 ประยุกต์ “Canon” ได้แปลกแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่เคยได้ยินอย่างสิ้นเชิง ด้วยการผสมรูปแบบเพลงแดนซ์ปนแร็พ เพื่อสร้างสีสันให้เพลงมีความน่าสนุกสนานมากขึ้น และสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือเพลง “Miracle” ซึ่งอย่างที่กล่าวมาแล้วว่าในเพลงนี้ พวกเขาได้รับอิทธิพลโดยตรงจาก “บีโธเฟ่น” จึงทำให้ทั้ง 3 นำเอาทำนองหลักของ “String Quartet” ท่อนสุดท้ายมาผสมกับดนตรีสไตล์ป๊อบ สนุกสนาน โดยมีทำนองหลักจะเป็นเสียงของเชลโล่และมีเสียงไวโอลินมาร่วมแจมอย่างสนุกสนาน

มาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงสนใจอัลบั้มของพวกเขาขึ้นมาแล้วล่ะสิ เพราะนอกจากจะทำให้คุณนึกถึงเพลงบรรเลงคุ้นหูที่เคยฟังในอดีตแล้ว อัลบั้มนี้ยังถือเป็นสีสันใหม่ที่ชวนให้ติดตามด้วยนะ…ซึ่งอัลบั้ม “Miracle” จะมีวางจำหน่ายในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ หากคุณเป็นคนที่ค้นหาสิ่งใหม่ๆ และอยากรู้ว่าดนตรีคลาสสิคจะผสมผสานกับดนตรีป๊อบ ร็อค แร็พ หรือดนตรีแนวอื่นๆ ยังไง ก็ต้องไปหามาฟังกัน

วันที่ 08/06/2008


เรื่องของพี่น้อง “ศรีณรงค์” นักเรียนทุนดนตรีคลาสสิค ในสมเด็จพระพี่นางฯ ที่เราเคยนึกชื่นชมตั้งแต่ครั้งที่มาเล่นเพลง แสงหนึ่ง ออกรายการโทรทัศน์แล้ว เพราะวันนั้นได้ฟังสัมภาษณ์แล้วรู้สึกชื่นชมความคิดของพวกเค้านะคะ ทั้งยังทำให้เราได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จฯท่านมากขึ้นไปอีก

ลองไปฟังที่เค้าเล่นดนตรีสดๆในวันนั้นกันอีกครั้งมั้ยคะ (ขอขอบคุณ คุณ snodgrass สำหรับที่มาของคลิปวิดิโอค่ะ)


Music ,

6 Replies

  1. สรุปว่าได้มาแล้วค่ะ เมื่อวานนี้ ในราคา 160 บาท(ทางร้านรู้จักกันเค้าลดให้ค่ะ)
    ตอนแรกก็หาเองไม่เจอนะคะ ต้องถามทางร้าน เค้าถึงมาหยิบให้..บอกว่าเพิ่งมาถึงวันนี้เอง ^^
    แพ็คเกจที่ดูเรียบง่าย..ไม่มีกล่องซีดีพลาสติค แต่มี booklet ที่สามารถใส่เป็นปกหน้าสำหรับกล่องซีดีมาให้
    คิดว่าน่าจะเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย

    ฟังไปหลายรอบค่ะ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบอัลบั้มนี้นะคะ
    แม้แต่เพลงที่เคยฟังมาก่อน อย่าง Swan Lake, Canon in D , Wedding ซึ่งหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินเพลงที่ว่านี้มาแล้วแน่นอน
    หรือแม้แต่ Confession จาก Symphony No.5 ของ Beethoven พอได้มาฟังจากอัลบั้มนี้ก็รู้สึกชอบเวอร์ชั่นนี้ด้วย ..มันเป็นความรู้สึกอีกแบบค่ะ สนุกดี
    เป็น “Songs without words” ที่ให้อารมณ์และความรู้สึกชัดเจนมาก โดยเฉพาะเวลาที่ใช้หูฟังส่วนตัว (Ear phone / Head phone)

    เพลงที่เราชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ค่ะ
    เพลงผู้ชายในสายฝน ที่เป็นเพลงรักฟังง่ายๆ สบายๆ ไม่หนักไม่เบาไม่เศร้าเกินไป
    เพลงใบไม้ ฟังแล้วก็รู้สึกเหงาๆ ทำให้คิดถึงคนไกลได้จริงๆ ..ชอบมากค่ะเพลงนี้
    เพลง Soul of Siam ก็มีจังหวะดนตรีที่รู้สึกเข้ากันได้ดี ทั้งที่เครื่องดนตรีแตกต่างเชื้อชาติ
    เพลง Rain Instrumental (ทำนองเดียวกันกับผู้ชายในสายฝน)ฟังสบายๆ เย็นๆดี ฟังซ้ำๆได้ วนไปวนมา ยังไม่เบื่อค่ะ

    ยังไงก็แนะนำค่ะ สำหรับอัลบั้มนี้ ..น่าสนับสนุนจริงๆค่ะ 😉

  2. เพิ่งเรียน ไวโอลิน แค่2วันเอง

    มา เจอ พี่ๆเค้าเล่น ไวโอลิน กับ เชลโล่ สีแบบ ดุเดือด เพราะน่าฟัง ก็ฟังทั้งวัน 10-20 รอบเลยวันนี้

    เพราะดี เข้าหู ยิ่งกว่า เพลง ที่เคยฟังอยู่ซะด้วยซ้ำ

    นึกๆอีกที เหนพี่ๆเค้า สีแบบ มือโปร ก็ นึกอิจฉา อิอิ เพิ่งเริ่มเรียน ไวโอลิน แค่2 วันเอง อิอิ
    อยาก เล่นได้ เก่งๆ แบบ พี่ๆ Vie Trio เค้ามั่ง เหอๆ

    อยากให้วางแผง เร็วๆ จัง ขายดีแน่ๆ

  3. วางแผงแล้วนะคะน้อง เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมาน่ะค่ะ
    พี่ได้มาวันที่ทางร้านเค้าก็บอกว่าของเพิ่งมาวันนั้นเลยค่ะ

    ซื้อได้เลยค่ะ ราคาร้อยกว่าบาท น่าเก็บ น่าฟังค่ะ
    บางทีแผ่นนี้อาจจะเป็นแรงใจดีๆให้กับการเล่นไวโอลินของน้องก็ได้นะ

    ขอให้เล่นได้เก่งๆสมดังหวัง(และตั้งใจด้วยนะคะ)
    😉

  4. เรียนไวโอลินมา3ปีเล่นซิมโฟนี่หมายเลข9ได้แล้วแต่ไม่ยัก
    เก่งแบบพี่ๆVie Trio

  5. สวัสดีครับทุกคน

    คือ ตอนนี้เราพยายามรวบรวมคนที่ใจรักและชอบฟังเพลงคลาสสิค

    ย้ำนะครับ เราอยากเปิดโอกาสให้เพื่อนๆคนอื่นได้รู้จักกับดนตรีคลาสสิคมากขึ้น เราจึงอยากรวมคนที่ชอบฟังและมาร่วมแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นๆ ใครที่สนใจจะร่วมเป็นเครือข่ายสมาชิกชุมนุมคนรักดนตรีคลาสสิค กรุณาเข้าไปที่ http://sites.google.com/site/thailandclassicalmusicfanclub/home
    หากใครมีเว็บหรือบล็อกของตัวเอง กรุณาวาง link ไว้ให้ด้วยนะ^__^
    และช่วยวางชื่อเว็บเราไว้ในเว้บ/บล็อกคุณ เพื่อรวมกลุ่มเครือข่าย
    ช่วยโพสด้วยว่า คุณ คือ
    สมาชิกเครือข่ายชุมนุมคนรักดนตรีคลาสิค
    ขอบคุณครับ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการสร้างชุมชนคนรักดนตรีคลาสสิค เรารอทุกคนอยู่ ^__^

    1. มีเว็บใหม่เรียบร้อยแล้ว เข้ามาแจ้งเพิ่มเติมในนี้ได้นะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *