ค่ะ เหตุการณ์วันนั้นที่ได้เห็น และประสบกับตัวเองแม้เพียงรอบนอก
ไม่ใช่คนที่อยู่ในกลุ่มนั้น ในสถานที่นั้น ในหน้าที่นั้น ไม่ว่าหน้าที่ใด

แม้ไม่ได้อยู่ข้างใน-เหตุการณ์นั้น ก็ยังสัมผัสได้ถึงคลื่นความรู้สึก..

คำบางคำที่เคยเป็นคำน้ำเน่าสำหรับบางคน ที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆในหนังฝรั่ง
กลับผุดขึ้นมาในใจของเราเอง หลายครั้งหลายครา
“Peace to the world..”
..อยากให้บ้านเมืองสงบสุขเหลือเกิน

ใช่ค่ะ หลายๆคำที่เราคิดว่ามันน้ำเน่า
มันเกร่อไป มันอะไรๆก็คำๆนี้ …
หรือแม้แต่คำว่า “..รักและคิดถึง”
ที่เรามักใช้กันบ่อยๆ
หากไม่ได้เจอกับตัวเอง
หรือไม่ได้รู้สึก ออกมาจากใจจริงๆ..
คุณจะไม่ได้สัมผัสถึงความหมายที่แท้จริงของถ้อยคำเหล่านี้เลย
………

ค่ะ เหตุการณ์วันนั้น ถ้าใครอยากอ่านก็คลิกด้านล่างไปอ่านต่อได้ค่ะ
สรุปจากข่าวมาไว้ให้ ไม่ได้ตัดต่ออะไร จึงอาจมีบางคำที่พร่องไปตามเนื้อข่าวต้นฉบับนะคะ

แต่ขอบอกไว้อย่างหนึ่งว่า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเชื่อทุกอย่าง
หรือแม้แต่เห็นวิดิโอคลิปแล้ว ก็อย่าปักใจว่าใช่อย่างที่เห็น
ถ้าสนใจอยากรู้ ก็ลองหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆเพิ่มเติมด้วยนะคะ 🙂

ที่มา วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 22:30:21 น. มติชนออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้เข้าเคลียร์พื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยการตีกรอบล้อมรอบพื้นที่รอบนอกตั้งแต่เย็นวันที่ 13 พ.ค.ถึงเย็น 14 พ.ค.เกิดความโกลาหลอย่างต่อเนื่องทั้งระเบิดเสียงปืนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

นาทีต่อนาที 2 : ประมวลภาพ – VDO เหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างทหาร-เสื้อแดง ตลอดวันที่ 14 พฤษภาคม
ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1273839285&grpid=06&catid=01

ศูนย์เอราวัณรายงานตัวเลขคนบาดเจ็บ157รายเสียชีวิต16ราย

ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ รายงานยอดผู้บาดเจ็บ เมื่อ เวลา 06.00 น. วันที่ 15 พ.ค. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 157 ราย ถูกนำตัวส่งรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ 15 แห่ง ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสต้องเข้าห้องไอซียู 7 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะรอบบริเวณการชุมนุม เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ราย เป็น 16 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 3 ราย และโรงพยาบาลพญาไท 1 อีก 3 ราย ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติ 3 ราย

สำหรับรายชื่อของผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นมา 6 ราย คือ นายพัน คำกอง , นายสมร ไหมทอง , นายทิพเนตร เจียมพล และชายไทยไม่ทราบชื่อ อีกจำนวน 3 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ ที่รอผลการตรวจสอบ ยืนยันข้อมูลอีก 4 ราย อยู่ที่ ร.พ.รามาธิบดี 1 ราย และที่ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ อีก 3 ราย

 

เหตุปะทะกันช่วงค่ำ 14 พ.ค.

 

ทหารยึดพื้นที่สี่แยกประตูน้ำคืนได้บางส่วนเสริมกำลังคุมเข้ม

 

เวลา 18.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคมว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ยึดคืนพื้นที่บริเวณสี่แยกประตูน้ำคืนได้แล้วบางส่วน โดยระดมกำลังทหารและตำรวจเสริมทันที เนื่องจากพิจารณาว่ายังไม่ปลอดภัยเพียงพอและได้เปิดให้รถผ่านได้บางจุดรวมทั้งได้ยึดอาวุธ ระเบิดเพลิงและเหล็กแหลมจากผู้ชุมนุม

 

ยิงบึ้มใส่จุดตรวจทหารบริเวณแยกศาลาแดง รวม 6 ลูก

เวลา 18.00 น. บริเวณแยกศาลาแดง มีเสียงระเบิดดังสนั่นนับได้ 6 ลูก ยิงใส่จุดตรวจเจ้าหน้าที่ที่บริเวณถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้าหน้าตึกอื้อจื่อเหลียง และคาดว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งเข้าไปในพื้นที่ให้การช่วยเหลือแล้ว

 

ทหารเคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าศาลาแดงเจอนปช.ต้านเดือดเสียงปืน-ระเบิดสนั่น

 

เวลา 18.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าไปในสี่แยกศาลาแดงโดยมาจากถนนวิทยุ ทันที่รถหุ้มเกราะมาถึงก็ได้รับการต่อต้านจากกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)อย่างหนักทันที ทั้งขว้างขวด ระเบิดขวด ระเบิดควันเข้าใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดเครื่องขยายเสียงเตือนว่าจะนับ 1-3 เท่านั้นและจะปฏิบัติการยิงทันที

 

ทั้งนี้ทันทีที่สิ้นเสียงจากเครื่องขยายเสียงก็ได้ยินเสียงปืนจากทหารบนทางเดินรถไฟฟ้าทันที พร้อมกับการตอบโต้ของผู้ชุมนุมที่ขว้างระเบิดขวด ระเบิดควันเข้าใส่ เกิดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้แจ้งการนำรถหุ้มเกราะเข้ามาเพื่อดูแลความปลอดภัยและเข้าพื้นที่ประชิด ไม่ให้มือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากผู้ชุมนุมไม่เชื่อและตอบโต้อย่างดุเดือด

 

 

ระเบิดสนั่นเวทีราชประสงค์ แกนนำกำลังปราศรัยกระโดดหนีตาย บาดเจ็บ15คน

 

เวลา 18.20 น. ที่เวทีคนเสื้อแดง บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นหลังจากเกิดเหตุเสียงดังคล้ายปืนด้านข้างเวทีและระเบิดควันหลังเวที ทำให้ผู้ชุมนุมตกใจกระจัดกระจายกันออกไปหลบ

 

ขณะที่แกนนำที่กำลังปราศรัยอยู่ด้านบนเวทีต้องกระโดดลงมาจากเวทีพร้อมกับประกาศให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหน้ามอบลงกับพื้น ทำให้เก้าอี้ล้มระเนระนาดและมีโล่กำบังกระจายอยู่เต็มพื้นที่และทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน

 

 

โรงพยาบาลตำรวจเผย นปช.ตายแล้ว 3 รายถูกยิง”หัว-ปาก-ท้อง”


เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. ปะทะกับทหาร ที่บริเวณแยกศาลาแดง มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 3 คน ทราบชื่อ

1.นายประจวบ ศิลาพันธ์ ถูกยิงเข้าหน้าอกทะลุหลัง

2.นายสมศักดิ์ ศิลารักษ์ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ

3.นายปิยะพงษ์ กฤษติวงษ์ อายุ 2 ปีถูกยิงเข้าที่ช่องปาก

ทั้งหมดญาติทราบเรื่องแล้ว

 

 

ยิงบึ้มเอ็ม79ถนนราชปรารภ4ลูกซ้อนปชช.-ทหารหนีตายเข้าตึกใบหยก

 

เวลา 20.30 น. บริเวณถนนราชปรารถ เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจำนวน 3 ครั้ง มาจากบริเวณโรงแรมอินทรา รีเจ้นท์ ซึ่งอยู่หากจากกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแนวประจำการอยู่ ที่แยกประตูน้ำประมาณ 100 เมตร ทำให้ทหารที่ประจำการอยู่ถนนราชปรารถ บริเวณหน้าประตูน้ำโพลีคลีนิค ซึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุ ต่างวิ่งหลบหาที่กำบังบริเวณตามซอกใต้ตึกต่างๆอย่างชุลมุลวุ่นวาย รวมทั้งสั่งให้กลุ่มสื่อมวลชนหลบอยู่ด้านหลังแนวทหาร เบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดชนิด M79 แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ


ต่อมาหลังจากเสียงระเบิดสงบประมาณ 20 นาที มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดจากฝั่งเจ้าหน้าที่บริเวณสี่แยกจตุรทิศ เบื้องต้นพบว่า
มีผู้หญิง อาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ รับจ้าง ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอยอาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีตำรวจ ปจ. 1 นาย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.พญาไท1 แต่ผู้หญิงเสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ถอยล่นออกไปตามถนนราชปรารถ มุ่งหน้าแยกสามเหลี่ยมดินแดง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ตั้งแนวอยู่บริเวณแยกประตูน้ำเป็นจำนวนมาก

 

 

เสื้อแดง500คนรวมตัวดินแดงรถยนต์-มอเตอร์ไซค์-แท็กซี่100คันเตรียมฝ่าด่านทหาร

เวลา 22.00 น. บรรยากาศของแนวปะทะที่บริเวณแยกดินแดงตัดถนนราชปรารถยังคงตึงเครียด โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้เผายางรถยนต์ ปิดกล้องซีซีทีวีทุกจุด และทุบหลอดไฟในพื้นที่ดังกล่าว โดยการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ได้ใช้วิทยุสื่อสารเรียกกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระจัดกระจายและบรรดาแท็กซี่เข้ามาร่วมชุมนุม


ล่าสุดมีรถแท็กซี่ที่ระดมเข้ามาเกือบ 100 คัน ขณะที่คนเสื้อแดงอีกส่วนขับรถส่วนตัวและขี่มอเตอร์ไซค์มา แต่ไม่สามารถตรงเข้าไปชุมนุมยังแยกราชประสงค์ได้ ก็ได้มีการรวมตัวกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเลยไปจนถึงถนนวิภาวดีประมาณ 500 คน ทำให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวเป็นอัมพาตเพราะผู้ชุมนุมใช้พื้นที่ไปถึง 2 เลน


โดยขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอยู่ในจุดนี้ เพราะทหารจะตั้งแนวรับตั้งแต่โรงแรมเซ็นจูรี่ไปจนถึงแยกมักกะสัน คาดว่าผู้ชุมนุมจะเข้าไปผลักดันทหารให้เปิดเส้นทางให้ได้ใน

——————————————-

เหตุปะทะเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ 14พ.ค.

 

มีเสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากเหตุปะทะที่หน้าบ่อนไก่ บาดเจ็บ 12 ราย สื่อทั้งไทย-เทศได้รับบาดเจ็บ


เวลา 15.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม มูลนิธิร่วมกตัญูญูรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลาย กลุ่ม นปช. ที่บริเวณหน้าบ่อนไก่ ใกล้สนามมวยลุมพินี ถ.พระราม4 มีผู้ถูกยิงมาส่งที่รพ.กล้วยน้ำไท1 ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตแล้ว 1 คน ทราบชื่อ นายอินแตง เทศวงษ์ อายุ 33 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา อย่างไรก็ตาม จากเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น คาดว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ทั้งที่เป็นกลุ่มแนวร่วม นปช. สื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ

 

ทหารรุกคืบวางลวดหนาม แยกบ่อนไก่อีกรอบ เร่งคุมพื้นที่ให้ได้เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ประจำการอยู่ที่ราบบ่อนไก่ ถ.พระราม 4 ได้รุกคืบคุมพื้นที่อีกครั้ง ด้วยการกลับมาวางลวดหนาว เพื่อขอคืนพื้นที่ หลังจากกลุ่ม นปช. ได้รุกเข้ามานำออกไปก่อนหน้านี้ โดยตลอดเวลา มีเสียงคล้ายปืน และประทัดดังอย่างต่อเนื่อง โดยทหาร ใช้ยุทธวิธี ทั้งกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาช่วยเคลียร์พื้นที่ นปช.เผายางรถยนต์ กลิ้งลงจากสะพานไทย-เบลเยี่ยม ต้านทหารรุกคืบเวลา 17.00 น. สองฝ่ายทั้งทหารและกลุ่ม นปช. คุมเชิงกันอยู่ระหว่างโรงแรมดุสิตธานี และสะพานไทย-เบลเยี่ยม บนถนนพระราม 4 กลุ่ม นปช. ก่อเหตุเผายางรถยนต์ 5 เส้น จนไฟลุกโชนแล้วกลิ้งลงมาจากสะพานไทย-เบลเยี่ยม เกิดเป็นกลุ่มควันโขมง ลอยปกคลุมไปทั่วพื้นที่ เพราะยางรถยนต์เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ต้องการต้านการรุกคืบพื้นที่ของทหารเสียงปืนดังลั่นบ่อนไก่ดับ1เจ็บนับ10
เวลา 17.50 น.
ที่ถนนวิทยุ ไปถึงแยกบ่อนไก่มีทหารจำนวนหนึ่งยืนรักษาพื้นที่ที่ยึดคืนจากคนเสื้อแดง แต่ก็ยังมีเสียงปืนและประทัด และมีการปะทะกันประปราย
เวลา 18.00 น. แยกมักกะสัน และถนนราชปรารภ ทหารยึดพื้นที่คืนได้เปิดให้รถวิ่งผ่านได้บางจุด แต่ทหารขอตรวจรถทุกคันและตรวจคนที่จะผ่านเข้าผ่านออกไปยังที่ชุมนุมและในจุดนี้ทหารยึดระเบิดเพลิงและเหล็กแหลมได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งในจุดนี้มีการยืนประจันหน้ากันระหว่างทหารกับคนเสื้อแดงห่างกันไม่เกิด 10 เมตร โดยก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นนั้นแยกบ่อนไก่เดือดไม่หยุดส่องท้ายทอยเสื้อแดงเสียชีวิตทันทีเวลา 18.00 น. ได้เกิดเหตุปะทะกันบริเวณแยกบ่อนไก่และผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ถูกยิงเสียชีวิต 1 รายกระสุนเข้าที่ท้ายทอยเสียชีวิตทันที ขณะที่ทหารยังคงปักหลักประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป——————————————–
เหตุปะทะเริ่มตั้งแต่ช่วงเที่ยง 12.00 น. 14พ.ค.
 

ทหารเคลื่อนกำลังยึดพื้นที่ เตรียมสลายม็อบ
เวลา 12.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม บริเวณถนนสาทรเหนือมุ่งหน้าถนนพระราม 4 เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจร โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนพลเข้าแยกวิทยุ ขณะที่มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารก็ส่องอาวุธปืนไปตามอาคารสูงต่างๆ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่างพากันวิ่งหลบหนีอย่างชุลมุน

ยิงแก๊สน้ำตาเคลียร์ถนนวิทยุ เปิดฉากมาตรการขอพื้นที่คืน
เวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเพื่อเป็นการเริ่มมาตรการขอคืนพื้นที่แยกวิทยุที่กลุ่มคนเสื้อแดงยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) และพยายามปิดล้อมเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในสวนลุมไนท์บาร์ซา พร้อมกันนั้น ยังได้เห็นกลุ่มควันดำออกมาจากภายในรั้วสวนลุมพินีในบริเวณใกล้เคียง

เผารถบัสตร.จอดหน้าสวนลุมฯ จนท.กันคนนอกห้ามเข้าแยกวิทยุ

เมื่อเวลา 12.35 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสที่ขนกำลังตำรวจมาดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)แดงทั้งแผ่นดิน ที่จอดอยู่หน้าสน.ลุมพินี ถ.วิทยุ เสียหายทั้งคันจนไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักบรรเทาสาธารณภัยดับไฟได้ระดมกำลังฉีดน้ำดับ

ขณะที่ทวิตเตอร์ของ จส.100 รายงานว่า กลุ่มนปช. แยกวิทยุ ถอยมาตั้งหลักที่แยกศาลาแดง บางส่วนเข้าไปหลบในสวนลุมพินี นอกจากนี้ตร.กันทุกคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าแยกวิทยุแล้ว


ทหารยิงปืนสกัด นปช.รุกคืบหน้าสนามมวยลุมพินี


เวลา 13.30 น. บริเวณหน้าสนามมวยลุมพินี ถ.พระราม 4 เป็นจุดเผชิญหน้ากันระหว่างกองกำลังทหาร และแนวร่วม นปช. โดยมีเสียงปืนยิงดับเป็นระยะ คาดว่าเป็นจากฝ่ายทหารที่ต้องการผลักดันไล่แนวร่วม นปช.ให้พ้นพื้นที่หน้าสนามมวยลุมพินี ที่พยายามรุกคืบเข้ามา ทั้งนี้ คาดว่าทหารจะใช้กระสุนยางในการยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม ขณะเดียวกัน กลุ่มแนวร่วม นปช.ก็มีการยิงปะทัดยักษ์ พลุตะไลเข้าใส่กองกำลังทหารเช่นกัน


ช่างภาพมติชน กระสุนปืนเจาะที่ขา นักข่าวต่างประเทศถูกลูกหลง


เวลา 13.50 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ขณะเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารและการ์ด นปช. บริเวณถนน นอกแนวรั้วสวนลุม ถ.วิทยุ ใกล้สะพานรถข้ามไทย-เบลเยี่ยม แยกสารสิน เป็นเหตุให้นาย นายสุบิน น้ำจัน ช่างภาพหนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านฝั่งตรงข้ามกับสวนลุมฯ ถูกลูกหลง ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน โดยยิงถูกที่ขา ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ด่วน


นปช.ถูกยิง 2 ราย จากเหตุยิงปะทะกันที่หน้าไนท์ บาร์ซ่าร์


เวลา 13.55 น. บริเวณหน้าไนท์ บาร์ซ่าร์ หลังเกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังทหาร และกลุ่มแนวร่วม นปช. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.แล้ว และหลังสิ้นสุดเสียงปืน ทหารรุกคืบเข้ามาใกล้ประชิดแนวร่วม นปช. มากขึ้น


เวลา 14.15 น. การปะทะกันระหว่างตำรวจ และการ์ด นปช. ก็มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่ทำข่าวอยู่บริเวณการปะทะย่านแยกสารสิน ถูกนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากตึก ภปร. ไปอาคารนวมินทราชินี ฝั่งถ.อังรีดูนังต์ เพื่อความปลอดภัย


รอยเตอร์สอ้างตำรวจสน.ลุมพินียิงกระสุนใส่พวกทหาร


ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อเวลา
14.30 น. ว่า เกิดเหตุตำรวจหน้าสน.ลุมพินี นายหนึ่งได้ใช้ปืนพกยิงใส่พวกทหารที่พยายามจะปิดล้อมพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ระหว่างการปะทะระหว่างกลุ่มทหารกับกลุ่มผู้ประท้วงคนเสื้อแดงในย่านลุมพินี แต่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สไม่ได้ระบุว่า สาเหตุการยิงดังกล่าวเป็นเพราะเหตุใด และมีผู้บาดเจ็บหรือไม่


เผยนักข่าวอิสระจากฟรานซ์ 24 “นิวสัน แลนซ์”ถูกยิงที่ต้นขา


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อ
เวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของ สำนักข่าว”ฟรานซ์ 24″ (France 24) ชื่อ นายนิวสัน แลนซ์ ซึ่งเป็นนักข่าวอิสระ ถูกยิงที่บริเวณต้นขา ขณะปฏิบัติหน้าด้วยถือกล้องบันทึกภาพระหว่างเหตุการปะทะระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ประท้วง แต่เอเอฟพีไม่ได้ระบุว่า จุดบริเวณเกิดเหตุอยู่ที่ใด

 

 

สะพัดข่าวมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย! จากเหตุปะทะที่หน้าบ่อนไก่

 

สำนักข่าวเนชั่น รายงานว่า เวลา 15.00 น. มูลนิธิร่วมกตัญูญูรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลาย กลุ่ม นปช. ที่บริเวณหน้าบ่อนไก่ ใกล้สนามมวยลุมพินี ถ.พระราม4 มีผู้ถูกยิงมาส่งที่รพ.กล้วยน้ำไท1 ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตแล้ว 1 คน ทราบชื่อ นายอินแตง เทศวงษ์ อายุ 33 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา

 

 

ปะทะกันแถวแยกราชปรารภ นปช.ถอยร่นไปถึงประตูน้ำ

 

เวลา 15.20 น. ทหารและกลุ่มคนเสื้อแดงยังมีการปะทะกันบริเวณแยกราชปรารภ เสียงปืนยังคงดังขึ้นเป็นระยะ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยร่นไปบริเวณแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภทั้งสองฝั่ง และบริเวณสถานีรถไฟฟ้าราชปรารภ

————————————————


กลางดึก-เช้ามืดวันที่ 14 พฤษภาคม


เวลา 00.10 น.วันที่ 14 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเสียงระเบิดขึ้นบริเวณลานจอดรถของโรงแรมดุสิตเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ขณะเดียวกันมีกลุ่มคนร้ายยิงลูกแก้วใส่ตัวอาคารโรงแรมดุสิต ตลอดจนยิงเข้าใส่ รพ.จุฬาลงกรณ์ด้วย สลับกับเสียงดังคล้ายปืนอย่างต่อเนื่อง
ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมยึดรถน้ำทหาร 2 คันที่ขับมาบริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยี่ยม ถนนสาธรเหนือ จากนั้นเรียกรถแท็กซี่ให้ทหารที่ประจำบนรถน้ำทั้ง 2 คัน จำนวน 6 คนกลับบ้านไป


เวลา 01.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ทหารปะทะกันเป็นระยะตลอดเวลา มีเสียงปืน เสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะๆแต่ยังไม่ระบุถึงผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ปิดถนนไม่ให้รถวิ่งผ่าน ที่บริเวณตึกฮึ้งจือเหลี่ยง กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามเข้าไปยั่วยุทหาร จุดปะทัดไล่ตลอดเวลา


เวลา 02.10 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งยึดรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 4 คัน จากนั้นเคลื่อนย้ายไปขวางถนนพระราม 4 ขาเข้า บริเวณแยกบ่อนไก่ ทำให้การจราจรติดขัด


เวลา 05.30 น. ชายอายุประมาณ 60 ปีรายหนึ่งถูกยิงจากมือปืนลึกลับจนได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้อาคารวานิชย์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีผู้นำตัวส่ง ร.พ.ในพื้นที่ใกล้เคียง และยังไม่ทราบอาการ


ช่วงเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม


เวลา 06.15 น. ที่บริเวณสวนลุมพินี ถนนพระราม 4 กลุ่มเสื้อแดงขว้างขวดเบียร์เข้าใส่ทหารที่ปักหลักอยู่ที่ประตู 3 สวนลุมพินีเป็นระยะ แต่ทหารไม่ได้ตอบโต้อะไร ผู้ชุมนุมพยายามเลื่อนบังเกอร์เข้ามาประชิดทหารบริเวณทางขึ้นเชิงสะพานไทย-เบลเยี่ยม ห่างจากจุดทหารอยู่ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น แต่ยังไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด


เวลา 08.00 น.ทหารชุดเคลื่อนที่เร็วอาวุธครบมือขับขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ 7-8 คัน ผ่านมาทางด้านหลังกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกถนนวิทยุใกล้สะพานไทย-เบลเยี่ยมเพื่อเข้าผลัดเปลี่ยนกำลังกับหน่วยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้ชุมนุม ปรากฏว่าระหว่างที่ทหารผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมได้กรูเข้าใส่ทหารชุดดังกล่าว ทำให้ทหารยิงปืนเพื่อเปิดทางจำนวน 3 นัด กลุ่มผู้ชุมนุมไม่กล้าเข้าล้อมกรอบ ได้แต่ยิงพลุเข้าใส่ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

 

มาบุญครอง-เซ็นทรัลชิดลม-สีลม”ประกาศปิด ไม่เสี่ยงเหตุป่วน


เวลา 09.00 น. บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า เบื้องต้น ศูนย์การค้า MBK Center จำเป็นต้องปิดให้บริการในวันนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากมีการปิดการจราจรบริเวณหน้าศูนย์การค้า ซึ่งจะมีการแจ้งการเปิดปิดศูนย์การค้าให้ทราบต่อไป เช่นเดียวกับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) แจ้งว่า ห้างเซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลสีลม และเซ็นทรัลเวิลด์ยังคงปิดให้บริการต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมปัจจุบัน


เวลา 09.10 น. ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งปิดล้อมรถข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่บริเวณสวนลุมพินี อ้างไม่พอใจการเสนอข่าวของทางสถานี แต่เจรจากันพักหนึ่ง กลุ่มเสื้อแดงยอมปล่อยรถข่าวช่อง 3 ออกมาจากพื้นที่สวนลุมฯ


เวลา 09.23 น. ขณะที่เฮลิคอปเตอร์บินผ่านแยกศาลาแดง ผู้ชุมนุมจุดบั้งไฟและพลุยิงขึ้นประมาณ 10 ครั้ง ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมบริเวณแยกสวนลุมพินีได้เลื่อนรั้วจากเชิงสะพานไทย-เบลเยี่ยม มาประชิดใกล้ตึกอื้อจื่อเหลียงมากขึ้น ทหารต้องเข้าไปเจรจาให้ถอยไป


ศูนย์เอราวัณรายงานผลปะทะเมื่อคืน เจ็บ 11 ตาย 1 เจอกาแฟพิษเข้ารพ.21ราย

 

ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ รายงานสถานการณ์ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบบริเวณพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อวานนี้(13พ.ค.) ว่าบริเวณใกล้แยกศาลาแดง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1 รายโรงพยาบาลตำรวจ 1 ราย และโรงพยาบาลหัวเฉียว 1 ราย คือ พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งภายหลังได้ย้ายไปรับการรักษาต่อที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล

 

บริเวณสวนลุมพินีประตู 2 มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย รับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 4 รายในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โรงพยาบาลเลิดสิน 2 ราย โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย และโรงพยาบาลกลาง 1 ราย และบริเวณใกล้แยกราชประสงค์ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย รับการรักษาที่โรงพยาบาลกลาง ส่วนผู้เจ็บป่วยจากการดื่มกาแฟบริเวณหลังเวทีชุมนุมแยกราชประสงค์จำนวน 21 ราย ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลิดสินทั้ง 21 ราย ขณะนี้กลับบ้านแล้ว 1 ราย

==============

 

ยังมีแหล่งข่าวอื่นๆให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ เช่น

เราเพียงแค่คัดลอกข่าวมาไว้เท่านั้นค่ะ เพราะวันต่อๆไปแหล่งข่าวก็คงสลายหายไปจะไม่มีเนื้อข่าวให้ได้อ่าน มีแต่คำพูดบอกเล่ากัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *